การเล่านิทานก่อนนอนให้ลูกฟัง นอกจากจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัวได้แล้ว ยังเป็นการกระตุ้นจินตนาการให้เด็ก ๆ ได้นึกภาพตาม อีกทั้งยังช่วยปลูกฝังข้อคิดคติเตือนใจให้ลูกน้อยได้อีกทางแบบไม่ต้องท่องจำอีกด้วย วันนี้กระปุกดอทคอมจึงขอเอา นิทานอีสป เรื่อง นกฮูกกับตั๊กแตน มาฝาก เผื่อคุณพ่อคุณแม่จะได้นำไปอ่านนิทานก่อนนอนสั้น ๆ ให้ลูกรักฟัง เรื่องราวเป็นอย่างไร มาติดตามกันเลย
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีนกฮูกสาวตัวหนึ่งเมื่อถึงคราวที่ท้องฟ้าสว่างเจิดจ้าด้วยแสงอาทิตย์ นกฮูกตัวนี้จะนอนหลับอยู่ในโพรงต้นไม้ พอแสงอาทิตย์จางหายไป นกฮูกผู้หลับใหลก็จะตื่นขึ้นมาพร้อมออกหากิน ซึ่งอาหารอันโปรดปรานของเจ้านกตัวนี้มีทั้ง แมลง มด สัตว์ตัวเล็กจิ๋ว พวกมันล้วนมีรสชาติดีแถมทำให้นกฮูกอิ่มได้ตลอดคืน
หลายเดือน หลายปีผ่านไป... เจ้านกฮูกที่อาศัยอยู่ในโพรงไม้นั้นได้แก่ตัวลง จะออกหากินแต่ละทีก็เริ่มลำบาก หากวันใดมีเสียงรบกวนช่วงเวลากลางวันก็จะทำให้นอนหลับไม่เต็มอิ่มจนหมดเรี่ยวแรง ถึงแม้ช่วงหลายวันที่ผ่านมาจะยังไร้เสียงหรือผู้ใดคอยรบกวน แต่วันนี้กลับมีเสียงร้องเพลงดังลั่นป่า นกฮูกแก่เลยต้องโผล่หน้าจากโพรงไม้เพื่อสังเกตการณ์ดูว่าใครกันนะที่ฮัมเพลงเสียงดังขนาดนี้
"นี่คือเวลากลางวัน ช่วงพระอาทิตย์ส่องแบบนี้ เรามีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้" ตั๊กแตนหันมาตอบแล้วร้องเพลงต่ออย่างสบายใจ นกฮูกเห็นดังนั้นยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ ไม่คิดว่าจะมีใครกล้าเถียงตนได้ขนาดนี้
"แต่เราต้องการพักผ่อน เพื่อที่จะได้มีแรงช่วงกลางคืน เจ้าไปร้องเพลงเล่นที่อื่นเถิด เจ้าตั๊กแตนตัวกระจ้อย !" นกฮูกโมโหหนักขึ้นกว่าเดิม
"ก็บอกเหตุผลมาสัก 1 ข้อสิ ว่าเราได้ประโยชน์อะไรจากการหยุดร้องเพลง... ลั้น ลา ละ ลั้น ลั้น ลา..." ตั๊กแตนร้องเพลงต่ออย่างไม่ไยดี
นกฮูกทำได้เพียงเคียดแค้นอยู่ในใจ ไม่กล้าโหวกเหวกออกไป ด้วยกลัวจะโดนผู้อื่นหัวเราะเยาะที่มาเถียงกันเพราะเรื่องแค่นี้ แต่เพื่อให้ตนเองนอนหลับได้นกฮูกผู้ปราดเปรื่องจึงคิดแผนการขึ้นมา
"ตั๊กแตนผู้มีเสียงอันไพเราะ เราต้องขอโทษทีที่เมื่อครู่นี้ได้ตวาดเจ้าไป มาตอนนี้เราได้ฟังเสียงเจ้าแล้วก็เป็นอันพอใจเพราะเสียงเจ้านั้นไพเราะเสนาะหูเหลือเกิน" นกฮูกออกมาพูดกับตั๊กแตนด้วยน้ำเสียงเยินยอ ทำเอาตั๊กแตนเกิดอาการประหลาดใจ แต่ก็อดยิ้มในคำชื่นชมนั้นไม่ได้
"วันนี้เรามีไวน์ชั้นเลิศ ที่เหล่าทวยเทพทั้งหลายใช้ดื่มช่วยทำให้เสียงใสก้องกังวานมากขึ้น เพื่อเป็นการมอบรางวัลให้ตั๊กแตนผู้ร้องเพลงดีกว่าใคร ได้โปรดขึ้นมาดื่มไวน์ด้วยกันบนนี้เถิด" นกฮูกเชื้อเชิญตั๊กแตนอย่างมีแผนการ
"ก็ได้ เห็นแก่ที่ท่านชอบใจในน้ำเสียงของเรา ถ้าอย่างนั้นเราจะขึ้นไปร่วมดื่มไวน์ด้วยแล้วกัน" ตั๊กแตนกล่าวเสร็จก็กระโดดขึ้นไปอย่างรวดเร็ว
เมื่อตั๊กแตนเดินเข้าไปในโพรงไม้อันมืดสนิท ก็ทำให้มันมองไม่เห็นสิ่งใดเลย ต่างจากนกฮูกที่มองเห็นได้ดี ว่าแล้วนกฮูกเลยได้ทีจัดการกินเจ้าตั๊กแตนจนอิ่มหนำ แล้วก็นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายใจไร้เสียงใด ๆ มารบกวนตลอดวัน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
อย่าหลงเชื่อคำเยินยอของใครง่าย ๆ เพราะสิ่งที่ร้ายกับเราได้มากที่สุดก็คือการหลงเชื่อคำพูดสรรเสริญอันไพเราะนั่นเอง อีกทั้งเมื่อเกิดความขัดแย้งอะไรกันควรใช้สติปัญญาในการแก้ไขดีกว่านั่งทะเลาะกันทั้งวันให้เสียเวลา
หลายเดือน หลายปีผ่านไป... เจ้านกฮูกที่อาศัยอยู่ในโพรงไม้นั้นได้แก่ตัวลง จะออกหากินแต่ละทีก็เริ่มลำบาก หากวันใดมีเสียงรบกวนช่วงเวลากลางวันก็จะทำให้นอนหลับไม่เต็มอิ่มจนหมดเรี่ยวแรง ถึงแม้ช่วงหลายวันที่ผ่านมาจะยังไร้เสียงหรือผู้ใดคอยรบกวน แต่วันนี้กลับมีเสียงร้องเพลงดังลั่นป่า นกฮูกแก่เลยต้องโผล่หน้าจากโพรงไม้เพื่อสังเกตการณ์ดูว่าใครกันนะที่ฮัมเพลงเสียงดังขนาดนี้
โดยต้นเสียงนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่มันเป็นเสียงขับร้องของตั๊กแตนผู้ย้ายมาใหม่นั่นเอง
"เจ้าตั๊กแตนตัวน้อย ช่วยเบาเสียงลงหน่อยได้ไหม เรานอนไม่ค่อยจะหลับเลย" นกฮูกกล่าวด้วยน้ำเสียงโมโห
"นี่คือเวลากลางวัน ช่วงพระอาทิตย์ส่องแบบนี้ เรามีสิทธิ์จะทำอะไรก็ได้" ตั๊กแตนหันมาตอบแล้วร้องเพลงต่ออย่างสบายใจ นกฮูกเห็นดังนั้นยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ ไม่คิดว่าจะมีใครกล้าเถียงตนได้ขนาดนี้
"แต่เราต้องการพักผ่อน เพื่อที่จะได้มีแรงช่วงกลางคืน เจ้าไปร้องเพลงเล่นที่อื่นเถิด เจ้าตั๊กแตนตัวกระจ้อย !" นกฮูกโมโหหนักขึ้นกว่าเดิม
"ก็บอกเหตุผลมาสัก 1 ข้อสิ ว่าเราได้ประโยชน์อะไรจากการหยุดร้องเพลง... ลั้น ลา ละ ลั้น ลั้น ลา..." ตั๊กแตนร้องเพลงต่ออย่างไม่ไยดี
"ตั๊กแตนผู้มีเสียงอันไพเราะ เราต้องขอโทษทีที่เมื่อครู่นี้ได้ตวาดเจ้าไป มาตอนนี้เราได้ฟังเสียงเจ้าแล้วก็เป็นอันพอใจเพราะเสียงเจ้านั้นไพเราะเสนาะหูเหลือเกิน" นกฮูกออกมาพูดกับตั๊กแตนด้วยน้ำเสียงเยินยอ ทำเอาตั๊กแตนเกิดอาการประหลาดใจ แต่ก็อดยิ้มในคำชื่นชมนั้นไม่ได้
"วันนี้เรามีไวน์ชั้นเลิศ ที่เหล่าทวยเทพทั้งหลายใช้ดื่มช่วยทำให้เสียงใสก้องกังวานมากขึ้น เพื่อเป็นการมอบรางวัลให้ตั๊กแตนผู้ร้องเพลงดีกว่าใคร ได้โปรดขึ้นมาดื่มไวน์ด้วยกันบนนี้เถิด" นกฮูกเชื้อเชิญตั๊กแตนอย่างมีแผนการ
เมื่อตั๊กแตนเดินเข้าไปในโพรงไม้อันมืดสนิท ก็ทำให้มันมองไม่เห็นสิ่งใดเลย ต่างจากนกฮูกที่มองเห็นได้ดี ว่าแล้วนกฮูกเลยได้ทีจัดการกินเจ้าตั๊กแตนจนอิ่มหนำ แล้วก็นอนหลับพักผ่อนอย่างสบายใจไร้เสียงใด ๆ มารบกวนตลอดวัน
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า :
อย่าหลงเชื่อคำเยินยอของใครง่าย ๆ เพราะสิ่งที่ร้ายกับเราได้มากที่สุดก็คือการหลงเชื่อคำพูดสรรเสริญอันไพเราะนั่นเอง อีกทั้งเมื่อเกิดความขัดแย้งอะไรกันควรใช้สติปัญญาในการแก้ไขดีกว่านั่งทะเลาะกันทั้งวันให้เสียเวลา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น